การ ทดสอบบรรจุภัณฑ์ เพื่อการขนส่ง เป็นขั้นตอนสำคัญในการประเมินความสามารถของบรรจุภัณฑ์ในการปกป้องสินค้าในระหว่างการขนส่ง ซึ่งกระบวนการขนส่งอาจมีแรงกระแทก การสั่นสะเทือน แรงกดทับ หรือสภาพแวดล้อมที่ไม่คงที่ การทดสอบนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าจะถึงมือผู้รับโดยไม่เสียหาย การทดสอบบรรจุภัณฑ์เพื่อการขนส่งมีหลายประเภท โดยครอบคลุมสถานการณ์ที่หลากหลายของการขนส่ง

ข้อมูลเบื้องต้นสำหรับการทดสอบที่สามารถสะท้อนความเสียหายของสินค้า จากการตกกระแทก และการสั่นสะเทือน เช่น ความสูงของการวางเรียงซ้อน รูปแบบการเก็บรักษาสินค้า สภาวะบรรยากาศ ระยะเวลาประเภทยานพาหนะขนส่ง รูปแบบ และจำนวนครั้งที่สินค้ามีโอกาสตกกระแทกได้ เป็นต้น ดังนั้น อุปกรณ์บันทึกข้อมูล และตรวจวัดความเร่งจึงเป็นเครื่องมือที่เก็บ และบันทึกข้อมูลกิจกรรมภาคสนามที่เกิดขึ้น เช่น อุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ และความดันบรรยากาศ เพื่อนำมาใช้จำลองรูปแบบของสภาวะการขนส่งในห้องปฏิบัติการให้ใกล้เคียงกับการขนส่งจริงที่สุด เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อบรรจุภัณฑ์ขนส่งที่ออกเเบบมา

 การทดสอบบรรจุภัณฑ์ขนส่งนั้นสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท

1. การทดสอบก่อนการขนส่ง

ASTM D4169 “Standard Practice for Performance Testing of Shipping Containers and Systems” และ ISTA 1A และ 2A

• การทดสอบการตกกระแทก (Shock and Drop Test)
• การทดสอบการสั่นสะเทือน (Vibration Test)
• การทดสอบการกดทับ (Compression Test)

เป็นการประเมินสมรรถนะของบรรจุภัณฑ์ ที่สามารถทนต่ออันตรายที่เกิดขึ้น ในสภาวะการขนส่งได้ โดยใช้บรรจุภัณฑ์ชุดเดียวกันต่อเนื่องตลอดการทดสอบ และจะเปิดบรรจุภัณฑ์เพื่อตรวจสอบ และประเมินความเสียหายของสินค้า เมื่อการทดสอบเสร็จสิ้น การทดสอบประเภทนี้จะให้ผลเพียงผ่าน หรือไม่ผ่านเท่านั้น จึงไม่ได้เป็นการรับประกันว่า สินค้าจะไม่เกิดความเสียหายภายใต้สภาวะแวดล้อมขนส่งจริงได้เนื่องจากสินค้าอาจเผอิญกับปัจจัยอื่น ๆ ที่ยากต่อการควบคุม

2. ระหว่างขนส่งจริง

การทดสอบสมรรถนะของ บรรจุภัณฑ์ขนส่งสามารถกระทำระหว่างการขนส่งจริง ในกรณีนี้ผลการตรวจวัด และบันทึกข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่อความเสียหายของสินค้าระหว่างทางจะถูกนำมาเปรียบเทียบกับผลทดสอบที่ได้จากห้องปฏิบัติการ แต่ไม่สามารถใช้ทดแทนการทดสอบก่อนการขนส่งในห้องปฏิบัติการได้ เนื่องจากสภาวะการทดสอบจะถูกควบคุมในห้องปฏิบัติการ ในขณะที่สภาวะบรรยากาศระหว่างการขนส่งจริงอาจมีการแปรปรวนของอุณหภูมิ ความชื้น ลักษณะเส้นทาง และพฤติกรรมของผู้บังคับพาหนะขนส่ง เป็นผลให้เกิดความรุนแรงมากกว่าผลที่ได้จากห้องปฏิบัติการ

ระดับความเสียหาย ต่อสินค้าขึ้นกับความสามารถในการปกป้องของบรรจุภัณฑ์ และระดับความทนต่อการเเตกหักเสียหายของตัวสินค้า (product fragility) เองด้วย  การใช้วัสดุบรรจุเกินความจำเป็นจะสามารถปกป้องสินค้าจากความเสียหายได้จริงอยู่ แต่อาจส่งผลให้ต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ในทางตรงข้าม วัสดุบรรจุที่น้อยเกินไปอาจทำให้ต้นทุนลดลงจริง แต่อาจทำให้บรรจุภัณฑ์ไม่สามารถปกป้องสินค้าได้เลย

ที่มา: กองโลจิสติกส์

การทดสอบบรรจุภัณฑ์แบบก่อนทำการขนส่ง

1. การทดสอบการตกกระแทก (Drop Test)

การทดสอบบรรจุภัณฑ์ และสินค้าที่อยู่ภายในเพื่อประเมินความสามารถในการทนทานต่อแรงกระแทกจากการตกหล่นหรือการกระแทกในระหว่างการขนส่งและการจัดการ การทดสอบนี้จำลองสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในโลกจริง เช่น การที่กล่องบรรจุภัณฑ์หล่นจากความสูงระหว่างการขนส่งหรือการจัดวางในคลังสินค้า ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ว่าบรรจุภัณฑ์สามารถปกป้องสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Standard: ISTA, ISO 2248, ASTM D5276, TAPPI T802

ในการทดสอบจะมีการกำหนดความสูงของการตกกระทบ ตามน้ำหนักของกล่อง และสินค้าที่บรรจุ และกำหนดด้านในการตกกระแทกทั้งหมด 10 ด้าน คือ

• 1 มุมล่างของกล่องที่บริเวณรอยต่อของกล่อง
• 3 ขอบของมุมล่างขิงกล่องเริ่มจากขอบสั้น -> ขอบยาวที่สุด
• 6 ด้านเริ่มจากด้านที่มีพื้นที่น้อย -> ด้านที่มีพื้นที่มากที่สุด

2. การทดสอบการสั่นสะเทือน (Vibration Test)

การทดสอบบรรจุภัณฑ์ และสินค้าที่อยู่ภายในเพื่อประเมินความทนทาน ต่อแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นระหว่างการขนส่ง เช่น บนรถบรรทุก รถไฟ เครื่องบิน หรือการจัดการในคลังสินค้า การสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้น จากการเคลื่อนที่อาจทำให้บรรจุภัณฑ์ หรือสินค้าภายในได้รับความเสียหาย การทดสอบนี้จึงมีความสำคัญในการประเมินความสามารถ ของบรรจุภัณฑ์ในการป้องกันสินค้า

Standard: ISTA, ASTM D999, ISO 2247

ในการทดสอบ สามารถตั้งความถี่ในการสั่นได้ตั้งแต่ 120 – 300 รอบต่อนาที (2-5 Hz) ซึ่งลักษณะในการสั่นจะมีทั้งแบบ Vertical Motion หรือ Rotary Motion และให้กำหนดระยะเวลาในการทดสอบตัวอย่าง

3. การทดสอบการกดทับ (Compression Test, BCT)

การทดสอบบรรจุภัณฑ์หรือวัสดุต่าง ๆ เพื่อประเมินความสามารถในการทนทานต่อแรงกดที่เกิดขึ้นในระหว่างการขนส่ง การจัดเก็บ หรือการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของบรรจุภัณฑ์ที่ต้องจัดเรียงซ้อนกัน เช่น กล่องกระดาษลูกฟูก ลังพลาสติก หรือวัสดุอื่น ๆ ที่มีการใช้งานในอุตสาหกรรม

Standard: ASTM D642,, TAPPI T804, ISO 12048

การทดสอบการกดทับ มีความสัมพันธ์กับความสามารถในการเรียงซ้อน และในการทดสอบ บางเครื่องทดสอบก็สามารถใช้เครื่องเดียวกับการทดสอบ BCT ได้

มาตรฐานที่ใช้ใน การทดสอบบรรจุภัณฑ์เพื่อการขนส่ง

1. ISTA (International Safe Transit Association): มาตรฐานการทดสอบบรรจุภัณฑ์เพื่อการขนส่งที่ถูกยอมรับอย่างกว้างขวาง ซึ่งครอบคลุมการทดสอบหลายประเภท เช่น การทดสอบการสั่นสะเทือน การกระแทก การทนแรงกด
2. ASTM (American Society for Testing and Materials): มาตรฐานการทดสอบความแข็งแรงและความทนทานของบรรจุภัณฑ์ เช่น ASTM D4169, D5276, D999
3. ISO (International Organization for Standardization): มาตรฐานสากลสำหรับการทดสอบบรรจุภัณฑ์ เช่น ISO 2248, ISO 12048

ความสำคัญของ การทดสอบบรรจุภัณฑ์เพื่อการขนส่ง

1. เพิ่มความปลอดภัยให้สินค้า: ช่วยให้มั่นใจว่าสินค้าจะถึงมือผู้บริโภคโดยไม่เสียหาย แม้จะเจอสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดระหว่างการขนส่ง
2. เพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง: ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่มีความแข็งแรงและทนทาน เพื่อให้การขนส่งเป็นไปอย่างราบรื่นและประหยัดต้นทุน
3. ลดความเสี่ยงในการคืนสินค้า: การทดสอบช่วยลดโอกาสที่สินค้าเสียหายระหว่างการขนส่ง ซึ่งจะช่วยลดความเสียหายทางการเงินและเวลาในการเคลมสินค้าจากลูกค้า

การ ทดสอบบรรจุภัณฑ์ เพื่อการขนส่ง จึงเป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้การขนส่งสินค้าเป็นไปอย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ โดยลดความเสี่ยงของความเสียหายที่จะเกิดขึ้น

ทาง Chemical House and Lab Instrument เป็นตัวแทนจำหน่าย เครื่องมือวัด เครื่องทดสอบ ในด้านอุตสาหกรรมเยื่อ และกระดาษ (Pulp and Paper Industry) และ Paper Packaging ทั้งเครื่อง Box Compression, Vibration Tester และ Drop Tester เป็นต้น โดยมีทั้งจากประเทศ บราซิล, USA, เยอรมัน และจีน เป็นต้น เช่น Regmed, Frank PTI เป็นต้น

บริษัท เคมีเคิลเฮ้าส์ แอนด์ แล็บอินสทรูเม้นท์ จำกัด 

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
☎️ โทร 02-184-4000 ฝ่ายขาย ต่อ 205
📧 Email : ppsales@chemihouse.com

Facebook : ch.chemicalhouse

หรือ Line OA จาก QR Code ด้านล่าง