FTIR (Fourier Transform Infrared Spectroscopy) คือ เทคนิคการวิเคราะห์องค์ประกอบของสารด้วยการใช้แสงอินฟราเรด ในการวิเคราะห์และระบุชนิดของสาร โดยเฉพาะสารอินทรีย์และโพลีเมอร์
สามารถตรวจสอบอะไรได้บ้าง
ใช้ในการวิเคราะห์ได้ดังนี้
1.การสร้างสเปกตรัมเฉพาะ FTIR
ใช้รังสีอินฟราเรดในการตรวจสอบตัวอย่าง โดยรังสีนี้จะถูกดูดซับโดยกลุ่มฟังก์ชันในโมเลกุลของสารที่มีอยู่ในตัวอย่าง ทำให้เกิดสเปกตรัมที่เป็นเอกลักษณ์หรือ “fingerprint” ของสารนั้นๆ สเปกตรัมนี้สามารถใช้เปรียบเทียบกับฐานข้อมูลสเปกตรัมที่มีอยู่เพื่อระบุชนิดของสาร
2.การวิเคราะห์ตัวอย่างที่หลากหลาย
FTIR สามารถวิเคราะห์ตัวอย่างได้หลายประเภท เช่น ของแข็ง ของเหลว และก๊าซ โดยแต่ละประเภทอาจต้องการวิธีการเตรียมตัวอย่างที่แตกต่างกัน เช่น การทำให้เป็นแผ่นบางหรือการใช้เทคนิค ATR (Attenuated Total Reflectance) สำหรับการวิเคราะห์
3. การตรวจสอบความบริสุทธิ์และการปนเปื้อน
เทคนิคนี้ยังสามารถใช้ในการตรวจสอบความบริสุทธิ์ของสารและการปนเปื้อนในวัสดุ โดยการเปรียบเทียบสเปกตรัมของตัวอย่างกับมาตรฐานหรือสเปกตรัมที่รู้จัก
4. การวิเคราะห์เชิงปริมาณ
นอกจากการระบุชนิดของสาร เทคนิคนี้ยังสามารถใช้ในการวิเคราะห์เชิงปริมาณ เช่น การวัดปริมาณของกลุ่มฟังก์ชันเฉพาะในตัวอย่างเมื่อมีข้อมูลมาตรฐานที่เข้าใจได้
5. การประยุกต์ในอุตสาหกรรม FTIR
ถูกนำไปใช้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมอาหาร ยา และวัสดุศาสตร์ เพื่อการควบคุมคุณภาพและการพัฒนาผลิตภัณฑ์
ขั้นตอนการทำงานเพื่อวิเคราะห์ผล
โดยเทคนิคนี้ มีขั้นตอนการทำงานเพื่อวิเคราะห์ผล ดังนี้
- แสงอินฟราเรดจากแหล่งก าเนิดจะถูกแยกเป็นสองส่วนด้วยตัวแยกล าแสง (beam splitter) ที่วางตัวท ามุม 45 องศา
- ลำแสงหนึ่งส่วนจะสะท้อนไปยังกระจกที่อยู่ในต าแหน่งคงที่ (fixed mirror) ส่วนอีกส่วนหนึ่งจะสะท้อนไปยังกระจกที่เคลื่อนที่ได้ (moving mirror)
- ลำแสงทั้งสองส่วนจะสะท้อนกลับมาที่ตัวแยกล าแสงและรวมตัวกัน ก่อนจะเข้าสู่ตัวอย่างที่ต้องการวิเคราะห์
- เมื่อล าแสงผ่านตัวอย่าง ส่วนที่มีความยาวคลื่นตรงกับความถี่การสั่นของพันธะเคมีในโมเลกุลของสารจะถูกดูดกลืน
- ล าแสงที่ผ่านตัวอย่างแล้วจะเข้าสู่ดีเทคเตอร์ ซึ่งจะวัดความเข้มของแสงที่ความยาวคลื่นต่างๆ
- สัญญาณที่ได้จากดีเทคเตอร์จะถูกส่งไปยังคอมพิวเตอร์เพื่อแปลงสัญญาณจากโดเมนเวลาเป็นโดเมนความถี่ด้วยการแปลงฟูริเยร์ (Fourier transform)
- ผลลัพธ์ที่ได้คือสเปกตรัมที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างความเข้มของแสงกับความยาวคลื่น ซึ่งสามารถใช้วิเคราะห์หมู่ฟังก์ชันและองค์ประกอบของสารได้
เครื่อง FTIR OptiFuel by PAC brand
เครื่อง FTIR OptiFuel by PAC brand OptiFuel เครื่องวิเคราะห์เชื้อเพลิงรุ่นล่าสุดที่ใช้เทคโนโลยี FTIR ซึ่งมีประสิทธิภาพและความทนทานสูง รวมเอาคุณสมบัติที่ดีที่สุดของ GS PPA, TD PPA และ QuickSpec เข้าด้วยกันในเครื่องวิเคราะห์เครื่องเดียว และเพิ่มเทคโนโลยี FT-IR ล่าสุดเข้าไปพร้อมกับมากกว่า 50 โมเดลการสอบเทียบที่ได้รับการสร้างขึ้นจากตัวอย่างเชื้อเพลิงทั่วโลกหลายร้อยตัวอย่างตาม ASTM E1655 และยังสามารถโคลนและถ่ายโอนการสอบเทียบไปยังเครื่องเพิ่มเติมได้ OptiFuel ยังมีคุณสมบัติที่สำคัญ เช่น การปฏิบัติตาม ASTM, EN และ ISO, การอัปเดตการสอบเทียบจากโรงงาน, อินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่าย, การเชื่อมต่อที่ครบครัน, มีเทคนิค Fourier Transform Infrared Spectroscopy ความละเอียดสูงพร้อม ATR flow cell ทำให้ OptiFuel เป็นเครื่องวิเคราะห์เชื้อเพลิงที่มีประสิทธิภาพและความทนทานสูง พร้อมการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญ ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในโรงกลั่น ท่อส่ง คลังน้ำมัน และห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่
วิธีการทดสอบด้วยเครื่อง OptiFuel
โดยสามารถทำการทดสอบได้ ง่าย สะดวก รวดเร็ว ดังนี้
- นำน้ำมันที่ต้องการทดสอบ ใส่ขวดทดสอบตัวอย่าง ที่ให้มากับเครื่อง OptiFuel
- หมุนขวดประกอบเข้ากับตัวเครื่อง
- กดเลือก ประเภทตัวอย่าง Gasoline, Diesel หรือ Jet Fuel
- กดปุ่ม ทดสอบ ได้เลย
- รอจนเสร็จสิ้น ผลการทดสอบในหลากหลาย Properties จะปรากฏให้เห็น เช่น Octane number (RON, MON), ethanol content, FAME, Vapor Pressure, Density เป็นต้น
ความแตกต่างของเครื่อง OptiFuel จาก PAC
ลักษณะจำเพาะของ OptiFuel ที่ทำให้แตกต่างจาก Fourier Transform Infrared Spectroscopy ทั่วไป ได้แก่
- มี Built-in Parameter และ Database จากตัวอย่างนับร้อย ทั่วทุกมุมโลก สามารถให้ผลการทดสอบได้หลากหลาย Properties ภายในการทดสอบเพียง 1 ครั้ง
- สามารถเพิ่ม Database ด้วยตัวอย่างท้องถิ่นนั้นๆ เพิ่มเติมได้
- ใช้เทคโนโลยีแบบ ธemperature-controlled Laser-referenced Michelson Interferometer สมัยใหม่
- ใช้กระจกที่ทำจาก ZnSe ป้องกันความชื้นและแรงสั่นสะเทือนได้ดี
- กระจก Beam Splitter และ Sample Cell เป็นแบบไม่เคลื่อนที่ทั้งหมด ทำให้ลดการ Maintenance ของชิ้นส่วน Moving Part
- การใช้กระจกแบบ Cube Corner Mirror ทำให้องศาการหักเหเข้าสู่ Detector คงที่กว่าแบบ Flat Mirror
- Database, Calibration สามารถถ่ายโอนระหว่างเครื่องทดสอบหลายๆเครื่องได้
หรือสามารถคลิกดูข้อมูลเกี่ยวกับ OptiFuel เพิ่มเติม
อ้างอิง : https://www.mic.eng.ku.ac.th/facilities-detail.php?id=37&id_sub=41
—
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Email : ptsales@chemihouse.com
สอบถาม Add Line OA หรือ Add line จาก QR Code ด้านล่าง