
ทำไมการควบคุมซัลเฟอร์ในน้ำมันเชื้อเพลิงจึงสำคัญ
ในปัจจุบัน การเดินเรือพาณิชย์ทั่วโลกต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะการปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO₂) จากการเผาไหม้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีกำมะถันสูง ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของฝนกรดและมลพิษทางอากาศที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของมนุษย์
องค์การทางทะเลระหว่างประเทศ หรือ IMO (International Maritime Organization) ได้ออกข้อบังคับ IMO 2020 Sulfur Cap Regulation ซึ่งกำหนดให้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2020 เป็นต้นไป น้ำมันเชื้อเพลิงทางทะเล (Marine Fuel Oil) ที่ใช้กับเรือเดินสมุทรจะต้องมีปริมาณกำมะถัน (Sulfur Content) ไม่เกิน 0.50% m/m (โดยมวล) จากเดิมที่อนุญาตได้สูงถึง 3.50%
มาตรฐานดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อ
-
ลดการปล่อยซัลเฟอร์ออกไซด์จากเรือเดินสมุทรทั่วโลก
-
สนับสนุนแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainability)
-
ลดมลพิษทางทะเลและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมชายฝั่ง
ด้วยเหตุนี้เอง การตรวจสอบค่ากำมะถันในน้ำมันเชื้อเพลิงอย่าง ถูกต้อง รวดเร็ว และแม่นยำ จึงกลายเป็นภารกิจสำคัญสำหรับทั้งเจ้าของเรือ ผู้จำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง และหน่วยงานควบคุมคุณภาพเชื้อเพลิงทางทะเล
มาตรฐาน IMO 2020 กับการขนส่งทางทะเล: การตรวจสอบคุณภาพเชื้อเพลิง
มาตรฐาน IMO 2020 ระบุให้เจ้าของเรือและผู้จัดจำหน่ายน้ำมันต้องมีระบบควบคุมคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง โดยเฉพาะในส่วนของปริมาณซัลเฟอร์ เพื่อให้แน่ใจว่าน้ำมันที่ใช้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด โดยการตรวจสอบสามารถทำได้หลายวิธี เช่น
-
การทดสอบในห้องปฏิบัติการ (Laboratory Testing) — เป็นการวิเคราะห์เชิงเคมีโดยใช้เครื่องมือขั้นสูง เช่น XRF Spectrometer หรือ UV-Fluorescence ซึ่งให้ความแม่นยำสูงแต่ต้องใช้เวลามากและมีค่าใช้จ่ายสูง
-
การทดสอบภาคสนาม (On-site Testing) — เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เนื่องจากสามารถวัดผลได้รวดเร็วในสถานที่จริง โดยไม่ต้องส่งตัวอย่างกลับห้องแล็บ ซึ่งช่วยลดเวลาในการตัดสินใจและลดค่าใช้จ่ายในการตรวจวิเคราะห์
ในปัจจุบัน องค์กรต่าง ๆ เช่น ISO, ASTM, และ IMO ต่างให้การยอมรับการใช้เทคนิค X-ray Fluorescence (XRF) เป็นวิธีมาตรฐานในการตรวจหาปริมาณซัลเฟอร์ในน้ำมันเชื้อเพลิง ตามมาตรฐาน ASTM D4294 – Standard Test Method for Sulfur in Petroleum and Petroleum Products by Energy Dispersive X-ray Fluorescence Spectrometry
เครื่องวิเคราะห์ซัลเฟอร์แบบพกพา X-MET8000 | ทางเลือกใหม่ของการควบคุมคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง

หนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับการตรวจวัดซัลเฟอร์ในภาคสนามคือ X-MET8000 Series จาก Hitachi High-Tech Analytical Science ซึ่งเป็นเครื่อง Handheld XRF Analyzer ที่ออกแบบมาเพื่อการวิเคราะห์ธาตุในวัสดุต่าง ๆ รวมถึงน้ำมันเชื้อเพลิงทางทะเล
เครื่อง X-MET8000 สามารถตรวจวัดปริมาณกำมะถันในน้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่าง รวดเร็ว แม่นยำ และไม่ทำลายตัวอย่าง (Non-destructive) ซึ่งตอบโจทย์สำหรับอุตสาหกรรมเดินเรืออย่างแท้จริง
🔹 จุดเด่นของเครื่องHandheld XRF รุ่น X-MET8000 ยี่ห้อ Hitachi สำหรับการวัดซัลเฟอร์
-
รวดเร็วและใช้งานง่าย — แสดงผลภายในไม่กี่วินาที เหมาะสำหรับการตรวจสอบแบบ On-site หรือ On-board
-
ไม่ต้องเตรียมตัวอย่างซับซ้อน — ใช้งานได้ทันทีเพียงหยดตัวอย่างน้ำมันลงบนแผ่นฟิล์ม
-
ความแม่นยำสูง — วิเคราะห์ค่ากำมะถันได้ในระดับ ppm ตามมาตรฐาน ASTM D4294
-
พกพาสะดวก — ขนาดกะทัดรัดและมีแบตเตอรี่ในตัว สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องมากกว่า 8 ชั่วโมง
-
รองรับมาตรฐานสากล — เช่น IMO 2020, ASTM D4294, ISO 8754, และ MARPOL Annex VI
-
ทนทานต่อสภาพแวดล้อมเรือ — ด้วยมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP54 และโครงสร้าง MIL-STD-810
-
มีระบบบันทึกข้อมูลอัตโนมัติ — สามารถส่งรายงานผ่าน Wi-Fi หรือ USB ได้ทันที
การทำงานของเครื่อง X-MET8000
หลักการของเครื่อง X-MET8000 คือการใช้เทคนิค X-ray Fluorescence (XRF) โดยเครื่องจะปล่อยลำรังสีเอกซ์ (X-Ray Beam) ไปกระทบตัวอย่างน้ำมัน ทำให้เกิดการปลดปล่อยพลังงานกลับในรูปของสเปกตรัมเฉพาะตัวของแต่ละธาตุ ซึ่งซอฟต์แวร์จะทำการวิเคราะห์ค่าความเข้มของพลังงานนั้น เพื่อระบุชนิดและปริมาณของซัลเฟอร์ในตัวอย่างได้อย่างรวดเร็ว
ค่าผลลัพธ์ที่ได้สามารถแสดงได้ทั้งแบบ % โดยมวล (wt%) หรือ ppm (parts per million) ซึ่งเหมาะสำหรับการควบคุมคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงตามข้อกำหนด IMO
ประโยชน์ของการใช้ X-MET8000 สำหรับอุตสาหกรรมเดินเรือ
1. ลดความเสี่ยงในการละเมิดข้อบังคับ IMO
การตรวจสอบซัลเฟอร์แบบทันทีช่วยให้มั่นใจว่าน้ำมันที่ใช้อยู่ในขอบเขต 0.50% ตามข้อกำหนด IMO2020 ลดโอกาสในการถูกปรับหรือถูกระงับการเดินเรือ
2. ลดต้นทุนการดำเนินงาน
ไม่ต้องส่งตัวอย่างไปห้องแล็บต่างประเทศ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงและใช้เวลานาน สามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเองภายในเรือ
3. เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า
บริษัทขนส่งทางเรือสามารถแสดงหลักฐานคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงต่อหน่วยงานกำกับดูแลได้ทันที
4. รองรับการใช้งานในพื้นที่ห่างไกล
เครื่อง X-MET8000 เหมาะสำหรับเรือที่เดินทางในเส้นทางระยะไกล หรือท่าเรือที่ไม่มีห้องปฏิบัติการประจำ
5. สนับสนุนการดำเนินงานอย่างยั่งยืน (Sustainability)
การลดการปล่อยซัลเฟอร์ไดออกไซด์เป็นส่วนหนึ่งของการลดคาร์บอน (Carbon Footprint) และช่วยให้บริษัทสอดคล้องกับนโยบายสิ่งแวดล้อมระดับโลก
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: เครื่อง X-MET8000 สามารถตรวจวัดธาตุอื่นในน้ำมันได้หรือไม่?
A: ✅ ได้ เครื่องสามารถตรวจวัดธาตุอื่น ๆ ได้เช่น Vanadium (V), Nickel (Ni), Iron (Fe) ซึ่งมีผลต่อคุณภาพเชื้อเพลิงและการสึกหรอของเครื่องยนต์
Q: การวัดซัลเฟอร์ด้วย X-MET8000 ต้องเตรียมตัวอย่างอย่างไร?
เพียงนำตัวอย่างน้ำมันหยดลงบนฟิล์มวิเคราะห์ (Sample Film) แล้วปิดฝาเซลล์ เครื่องจะทำการวิเคราะห์โดยอัตโนมัติภายในไม่กี่วินาที
Q: ผลการวิเคราะห์จาก X-MET8000 เชื่อถือได้เทียบเท่าห้องแล็บหรือไม่?
A: ได้ เครื่องได้รับการสอบเทียบตามมาตรฐาน ASTM D4294 และ ISO 8754 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ใช้รับรองคุณภาพของการวัดซัลเฟอร์ด้วยเทคนิค XRF
Q: เครื่องสามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง เช่น บนเรือได้หรือไม่?
A: สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย เพราะตัวเครื่องมีมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP54
Q: เครื่อง X-MET8000 มีการรับประกันและบริการหลังการขายหรือไม่?
A: มีบริการหลังการขายจากบริษัท Chemical House & Lab Instrument Co., Ltd. ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Hitachi High-Tech Analytical Science ในประเทศไทย พร้อมบริการสอบเทียบและบำรุงรักษา
สรุป: การลงทุนเพื่อความปลอดภัยและความยั่งยืนในอนาคต
การควบคุมปริมาณซัลเฟอร์ในน้ำมันเชื้อเพลิงไม่เพียงแต่เป็นข้อบังคับตามมาตรฐาน IMO 2020 เท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในการลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม สร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมเดินเรือ ด้วย เครื่อง X-MET8000 จาก Hitachi ผู้ใช้งานสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลการวิเคราะห์ที่แม่นยำ รวดเร็ว และสอดคล้องกับมาตรฐานสากลทุกประการ
ติดต่อบริษัทได้ที่
Website: Chemical House & Lab Instrument Co., Ltd.
E-mail: mtsales@chemihouse.com หรือ info@chemihouse.com
Facebook : ch.chemicalhouse
LINE: @358ithsc
โทร: 02-184-4000


