กล่องลูกฟูก คือ กล่องบรรจุภัณฑ์ที่ทำจาก กระดาษที่มีลักษณะเป็นลอนลูกฟูกอยู่ตรงกลาง โดยมีแผ่นกระดาษปะหน้า 2 แผ่นอยู่ที่ด้านหน้าและด้านหลัง หรือเราจะเรียกว่า กระดาษลูกฟูก
กระดาษลูกฟูกมีคุณสมบัติพิเศษ ที่ส่งผลให้ กล่องกระดาษลูกฟูกกลายเป็น กล่องบรรจุภัณฑ์ประเภท กระดาษที่มีความแข็งแรงมาก รับน้ำหนักได้มาก ดังนั้นกล่องกระดาษลูกฟูก จึงกลายมาเป็นกล่องที่นิยมใช้ใน สายงานการผลิตเพื่อ จัดเก็บสินค้าให้พร้อมที่จะทำการจัดส่งสินค้าไปยังที่ต่างๆ เพราะ เป็นบรรจุภัณฑ์ที่สามารถช่วยป้องกัน สินค้าให้ปลอดภัยในระหว่างการขนย้าย กล่องกระดาษลูกฟูกจึงได้รับความนิยมอย่างมากในวงการอุตสาหกรรมการผลิต และการขนส่ง
โครงสร้างของกระดาษลูกฟูก

โครงสร้างของกระดาษลูกฟูก แผ่นกระดาษจะประกอบด้วยสองส่วนหลัก ได้แก่
1.กระดาษแผ่นเรียบ (Liner Board) หมายถึง ส่วนประกอบที่เป็นกระดาษแผ่นเรียบ ส่วนที่ติดอยู่กับลอนลูกฟูก ทั้งด้านบน และด้านล่าง
2.ลอนลูกฟูก (Corrugated Medium) หมายถึง ส่วนประกอบที่เป็นแผ่นกระดาษ มีลักษณะเป็นคลื่นอยู่ติดกับกระดาษแผ่นเรียบ
ชนิดของกระดาษที่นำมาผลิตกระดาษลูกฟูก
1.กระดาษทำผิวกล่อง (Linerboard)
ต้องมีผิวเรียบสม่ำเสมอ ติดกาวได้ดี ชนิดของกระดาษที่ใช้ทำผิวกล่องมักประกอบด้วย
Kraft Liner คือ กระดาษคราฟท์ ที่ประกอบไปด้วยองค์ประกอบที่เป็นเส้นใย (Fiber) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 โดยเส้นใยได้จากกรรมวิธีซัลเฟต และอาจมีองค์ประกอบของเส้นใยบริสุทธิ์ (Virgin Pulp) และเส้นใยหรีไซเคิล (Recycled Pulp) ในอัตราส่วนต่าง ๆ นอกจากนี้พบว่า กระดาษทำผิวกล่องด้านนอก มักนิยมขัดผิวให้เรียบ หรือมีการผสมเฉดสีรวมทั้งการฟอกขาวในลักษณะต่าง ๆ เพื่อให้ได้งานพิมพ์ที่สวยงามมากขึ้น
Test liner คือ กระดาษ ที่มีคุณภาพโดยรวมต่ำกว่า Kraft Liner ทั้งนี้เนื่องจาก ประกอบไปด้วยเยื่อกระดาษที่ใช้แล้ว (Recycled Pulp) เกือบร้อยละ 100 โดยกระดาษชนิดนี้ มักสามารถมองเห็น สิ่งเจือปนบนผิวหน้าของกระดาษได้อย่างชัดเจน เมื่อมองด้วยตาเปล่า โดยทั่วไปพบว่ามีการนำ Test liner มาใช้เป็นกระดาษทำผิวกล่องค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่มักใช้กระดาษชนิดนี้ในการทำเป็นลอนลูกฟูก
2. กระดาษทำลอนลูกฟูก (Corrugating Medium)
โดยทั่วไปกระดาษชนิดนี้ มักมีองค์ประกอบของ เยื่อรีไซเคิล เกือบร้อยละ 100 (Recycled pulp) ซึ่งมีคุณภาพต่ำกว่ากระดาษทำผิวกล่อง ทั้งนี้เนื่องจาก ไม่ต้องการความสวยงามของลักษณะปรากฎมากนัก อย่างไรก็ตาม แผ่นกระดาษทำผิวกล่องนั้น มีอยู่หลากหลายเกรดและหลายน้ำหนัก (กรัมต่อตารางเมตร หรือเรียกว่า “แกรม”) ทั้งนี้ชื่อเรียกของชนิดกระดาษทำผิวกล่องก็จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับบริษัทผู้ผลิต เช่น CM, CA, CS
ชนิดของแผ่นกระดาษลูกฟูก
1. Single Face (กระดาษลูกฟูก 2 ชั้น) ประกอบไปด้วย กระดาษ แผ่นเรียบ 1 แผ่น ปะกบกับลอนลูกฟูก 1 แผ่น นิยมใช้กันกระแทกสินค้า หรือ ปะกล่อง offset
2. Single wall (กระดาษลูกฟูก 3 ชั้น) ประกอบไปด้วย กระดาษแผ่นเรียบ 2 แผ่น ปะกบกับ ลอนลูกฟูก 1 แผ่น โดยลอนลูกฟูก จะอยู่ตรงกลางระหว่าง กระดาษแผ่นเรียบทั้ง 2 แผ่น มักใช้กับสินค้า ที่มีน้ำหนักปานกลาง หรือ ไม่เน้นความแข็งแรงมากนัก
ในส่วนของชนิด และประเภทของลอนลูกฟูก สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จาก บทความ บรรจุภัณฑ์จาก กระดาษลูกฟูก
กระบวนการผลิต กล่องลูกฟูก

1. การผลิตกระดาษลูกฟูก
เป็นการนำกระดาษ สำหรับทำลอนลูกฟูก ไปทำการขึ้นรูปลอน และนำมาประกบ กับกระดาษปะหน้า (Liner) กลายเป็นกระดาษลูกฟูก โดยขั้นตอนในการผลิต จะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ
-
ขั้นตอนการทำลอน –
Single Face คือ การนำกระดาษไปถูกความร้อนชื้น และนำมาขึ้นรูปเป็นลอนลูกฟูก จากนั้นนำไปทากาวตรงจุดสูงสุดของลอน และนำกระดาษปะหน้ามาประกบ ก็จะได้แผ่นกระดาษลูกฟูกหน้าเดียว (Single Face)
-
ขั้นตอนการผลิตแผ่นกระดาษลูกฟูกสองหน้า –
Single Wall คือ หลังจากได้แผ่นกระดาษลูกฟูกหน้าเดียวแล้ว แผ่นกระดาษลูกฟูกหน้าเดียวก็เข้าสู่กระบวนการเข้าสู่เครื่องทากาวตัวที่สอง เมื่อทากาวแล้วจะเคลื่อนตัวไปรับกระดาษผิวกล่องมาปิดทับผิวหน้าที่ทากาวไว้ ก็จะทำให้ได้แผ่นลูกฟูกสองหน้า หรือแผ่นกระดาษลูกฟูก 1 ชั้น
2. การผลิตกล่องลูกฟูก
นำกระดาษมาผลิตเป็นกล่อง การเชื่อมรอยต่อโดยแผ่นลูกฟูกที่ได้ออกมาจากเครื่อง เช่น การลามิเนต การพิมพ์
โดยทั่วไปกระบวนการผลิตกล่องกระดาษลูกฟูกจะเริ่มต้นจากแผ่นกระดาษลูกฟูกที่ผลิตได้จากเครื่องผลิตแผ่นลูกฟูก (Corrugator) โดยแผ่นกระดาษลูกฟูกจะถูกทับรอย (Score Line) ซึ่งเป็นส่วนสูงของกล่อง และจะนำไปทับรอย (Crease) ที่เครื่องพิมพ์เพื่อเป็นความกว้างและยาวของกล่อง หลังจากนั้นจะเซาะร่อง (Slotted) เพื่อทำเป็นฝาและก้นกล่อง และตัดเป็นส่วนลิ้นกาวกล่องซึ่งจะทากาว หรือเย็บลวด
3. การขึ้นรูปกล่องลูกฟูก
การขึ้นรูปกล่องกระดาษชนิดนี้นั้นก็จะใช้วิธีการเชื่อมต่อกัน โดยสามารถที่จะแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบได้ดังต่อ
-
กล่องกระดาษลูกฟูกแบบเย็บลวด:
เป็นกล่องที่มีขนาดที่ใหญ่เป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่นั้นก็เหมาะสมกับการผลิตสินค้าที่มีน้ำหนักที่เยอะเป็นอย่างมากหรือมีรอยต่อที่ค่อนข้างเยอะ ซึ่งก็จะทำให้การทากาวที่กล่องนั้นก็จะไม่ค่อยจะสะดวกสักเท่าไร เลยทำให้จำเป็นที่จะต้องมีการผลิตจากการใช้ลวดเย็บ กระบวนการผลิตจะใช้เครื่องพิมพ์และเซาะร่อง (Printer Slotter) แล้วนำไปท้า การตอกด้วยเครื่องตอก
-
กล่องกระดาษลูกฟูกแบบติดกาว:
เป็นกล่องที่ใช้เวลาในการผลิตน้อยและสามารถใช้งานกับสินค้าทั่วไป กระบวนการผลิตจะใช้เครื่องพิมพ์และติดกาว อัตโนมัติ (Flexo Folder Gluer) ซึ่งเป็นเครื่องจักรที่รวมเครื่องพิมพ์ เครื่องเซาะร่อง เครื่องทับรอย เครื่องพับ และเครื่องทา กาว (Printer Slotter และ Folder Gluer) เข้าไว้ด้วยกันในเครื่องเดียวกัน
-
กล่องกระดาษลูกฟูกไดคัท:
กล่องกระดาษลูกฟูกชนิดไดคัทนั้น ถือเป็นกล่องกระดาษลูกฟูกแบบพิเศษ ที่ผลิตตามแบบที่ถูกดีไซน์เพื่อความสวยงาม โดยเฉพาะสามารถออกแบบ ให้ขึ้นเป็นรูปกล่องได้โดยไม่ต้องใช้ลวดเย็บ หรือการติดกาว
ในแต่ละกระบวนการผลิตกล่องลูกฟูกนั้น จำเป็นจะต้องมีการสุ่มตัวอย่าง และนำไปทดสอบค่าความแข็งแรง หรือคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ทำการผลิตออกมา โดยจำเป็นจะต้องตรวจสอบตั้งแต่ กระดาษที่รับเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นกระดาษสำหรับปะผิวหน้า หรือกระดาษสำหรับทำลอน

การทดสอบคุณสมบัติของกระดาษ (Incoming check)
- น้ำหนักมาตรฐาน (Basis weight)
- ความหนา (Thickness)
- การดูดซึมน้ำ (Cobb)
- ปริมาณความชื้น (Moisture content)
- ความต้านทานแรงกดในแนววงแหวน (Ring crush resistance)
- ความต้านทานแรงดันทะลุ (Burst Strength)
การทดสอบคุณสมบัติของกล่องลูกฟูก
- น้ำหนักมาตรฐาน (Basis weight)
- ความหนา (Thickness)
- การดูดซึมน้ำ (Cobb)
- ปริมาณความชื้น (Moisture content)
- ความต้านทานแรงกดลอนลูกฟูก (Concora Medium Test)
- ความต้านทานแรงกดลอนลูกฟูกในแนวตั้ง (Edgewise crush resistance)
- ความต้านทานแรงกดลอนลูกฟูกในแนวนอน (Flat crush resistance)
- ความต้านทานแรงดันทะลุ (Burst Strength)
- ความต้านทานแรงทิ่มทะลุ (Puncture resistance)
ทาง Chemical House and Lab Instrument เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือ เครื่องทดสอบ ในห้องปฏิบัติการ (Laboratory) ในอุตสาหกรรมเยื่อ กระดาษ และกล่องลูกฟูก (Paper Packaging) เช่น เครื่องทดสอบแรงกดกล่องลูกฟูก (Crush Tester), เครื่องทดสอบแรงดันทะลุ (Burst Tester), เครื่องทดสอบความต้านแรงกดกล่อง (Box Compression) เป็นต้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ppsales@chemihouse.com
หรือ Line OA จาก QR Code ด้านล่าง