Positive Material Identification (PMI)
Positive Material Identification หรือ PMI คือ การวิเคราะห์ ส่วนผสมทางเคมี เพื่อระบุชนิดและเกรดวัสดุของอัลลอยด์ โลหะประเภทต่าง ๆ เพื่อการควบคุมคุณภาพ (Quality Control) และควบคุมความปลอดภัย (Safety Control) ของวัสดุโลหะที่จะนำไปใช้งาน ผลวิเคราะห์ที่ได้จากการทำ PMI จะแสดงธาตุต่าง ๆที่ เป็นองค์ประกอบ ทางเคมีของวัสดุและปริมาณที่ตรวจพบ โดยมักจะรายงานเป็น เปอร์เซ็นต์ (%) หรือ ppm/ ppb และแสดงชื่อเกรดของวัสดุที่ตรวจพบด้วย
เทคนิค PMI
PMI เป็นเทคนิค การตรวจสอบ ที่ใช้ในการ Accept หรือ Reject วัสดุโละหะที่จะนำไปใช้งานเพื่อบอกว่า อัลลอย์โลหะ ที่จะนำไปไปใช้งานถูกต้องหรือไม่หรือเพื่อบอกว่ามีองค์ประกอบทางเคมีของธาตุบางตัวที่ไม่ต้องการ หรือไม่ เนื่องจากธาตุบางตัวหากมีปริมาณสูง หรือ ต่ำกว่าสเปคที่กำหนดอาจส่งผลต่อคุณสมบัติทางกล (Mechanical Properties) ที่อาจเปลี่ยนแปลงไป และส่งผลต่อการนำไปใช้งาน วิธีการตรวจสอบ PMI อัลลอย์ถูกใช้ในกระบวนการ QC, Safety Compliance และเป็นส่วนหนึ่งในระบบ Production and Asset Integrity Management
ตัวอย่างภาคอุตสาหกรรมที่ใช้ทดสอบ PMI
- Oil & Gas
- Power Generation
- Chemical
- Pharmaceutical
- Aerospace
- Nuclear
- Fabrication
วิธีการตรวจสอบ PMI ถูกใช้ในกระบวนการ QC, Safety Compliance และเป็นส่วนหนึ่งในระบบ Production and Asset Integrity Management
ในหลายภาคอุตสาหกรรม เช่น Oil & Gas, Power Generation, Chemical, Pharmaceutical, Aerospace, Nuclear, และ Fabrication
จำเป็นไหมที่ต้องทำ PMI
โดยเหตุผลหลักที่ต้องทำ PMI เพื่อ
- ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ เช่น ASTM code, Pressure Equipment Directive (PED) in EU, API, หรือ ASME หรือ เป็นนโยบายด้านคุณภาพและความปลอดภัย เพื่อป้องความผิดพลาดต่างๆ เช่น การติดป้ายชี้บ่งวัสดุผิด การปนกันของ วัสดุคนละเกรด หรือ อุบัติเหตุใน โรงงานอุตสาหกรรม PMI จึงมีบทบาทสำคัญในด้านการตรวจสอบเพื่อความปลอดภัยในโรงาน Plant Safety
- การตรวจสอบ PMI ช่วยป้องกันความผิดพลาดของสินค้าในกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรม Oil & Gas, Power Generation และ Pharmaceutical การตรวจสอบแนวเชื่อม (Welds) และส่วนประกอบสัญต่างๆใน Process ด้วยวิธีการ PMI ทั้งก่อน และหลังการบริการ หรือซ่อมบำรุง ช่วยลดความผิดพลาดทางกล (Mechanical Failure) ที่เกิดขึ้นในโรงงาน ซึ่งสร้างผลกระทบ และมีค่าใช้จ่ายตามมาที่สูง
- อุบัติเหตุส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นในภาคอุตสาหกรรม มักมีสาเหตุมาจาก Mechanical Failure เช่นอันเนื่องมาจาก ความผิดพลาดของรอยเชื่อม ซึ่งมีความแข็งแรงไม่เพียงพอ หรือเกิดมากจากปัญหา Stress Corrosion Cracking, Flow Accelerate Corrosion และนี่คือเหตุผลที่เราทำ PMI
เทคนิคการทดสอบด้วยเครื่องวิเคราะห์ PMI
การทดสอบ PMI ทำโดยใช้เครื่องวิเคราะห์ PMI ซึ่งในปัจจุบันมีทั้งหมด 3 เทคนิค
1. X-ray Fluorescence (XRF): เครื่อง Hand Held XRF Analyzer
เป็นหนึ่งในเทคนิค ที่ได้รับความนิยม และแพร่หลายมาก สามารถตรวจวัดอัลลอยด์โลหะ ได้หลากหลายชนิด เป็นวิธีการตรวจสอบที่รวดเร็ว และยังเป็นการทดสอบ แบบไม่ทำลาย (Non-Destructive Testing) เครื่องมีน้ำหนักเบา แต่มีข้อจำกัด ที่ไม่สามารถตรวจวัดธาตุคาร์บอน C และ ธาตุเบาบางธาตุ บนตารางธาตุได้ จึงไม่เหมาะสำหรับการตรวจสอบ วัสดุกลุ่ม Carbon Steel
2. Laser Induced Breakdown Spectroscopy (LIBS): เครื่อง Hand Held LIBS Analyzer
เป็นเทคนิค ที่กำลังแพร่หลายมากขึ้น เนื่องจาก จุดเด่นในด้านความเร็ว ในการทดสอบ ที่ใช้เวลาเพียง 1 วินาที ทำให้สามารถตรวจสอบงานปริมาณมาก ในเวลาที่สั้นลง และยังไม่ใช้พลังงาน X-ray จึงไม่ต้องดำเนินการเรื่อง ขอใบอนุญาตครอบครองเครื่อง และไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยจากรังสี เครื่องมีน้ำหนักเบาเช่นเดียวกับ เทคนิค XRF
3. Optical Emission Spectroscopy (OES): เทคนิค OES สามารถตรวจสอบอัลลอยด์โลหะได้ เกือบทุกชนิด
สามารถตรวจธาตุคาร์บอน และธาตุเบาได้ จึงใช้ในการตรวจสอบโลหะกลุ่ม Carbon Steel แม้ว่าจะไม่ได้มีน้ำหนักเบา และออกแบบมาให้พกพาได้ สะดวกเหมือน เครื่อง Hand Held HXRF และ Hand Held LIBS แต่ก็มีอุปกรณ์ช่วย ในการขนย้ายไปทำการวิเคราะห์ PMI ที่หน้างานได้สะดวก OES ยังเป็นเทคนิคที่ได้รับการยอมรับ ในเรื่องความเที่ยงตรง และแม่นยำสูง เมื่อเทียบกับเทคนิคอื่น ๆ
บริษัท เคมีเคิลเฮ้าส์ แอนด์ แล็บอินสทรูเม้นท์ จำกัด
ตัวแทนจำหน่ายเครื่องทดสอบยี่ห้อ Hitachi อย่างเป็นทางการในประเทศไทย
☎️ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
📲 โทร 088-088-4399 ฝ่ายขาย
📧 Email : mtsales@chemihouse.com
หรือ Line OA หรือ Add line จาก QR Code ด้านล่าง