ในขณะที่พลังงานทดแทนจาก Biofuels (เชื้อเพลิงชีวภาพ) กำลังเป็นที่นิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเพิ่มปริมาณ Biodiesel ในนำ้มันเชื้อเพลิงดีเซลหลัก
ประเทศไทยมีมาตรการควบคุมการปล่อยมลพิษจากเชื้อเพลิงชีวภาพที่หลากหลาย ซึ่งมุ่งเน้นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน โดยมีรายละเอียดดังนี้:
มาตรฐานการควบคุมมลพิษ
- ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม: มีการกำหนดมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากโรงงานผลิตพลังงาน ซึ่งรวมถึงการควบคุมการปล่อยสารมลพิษจากการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ เช่น ก๊าซชีวภาพ
- มาตรฐานคุณภาพอากาศ: กำหนดมาตรฐานคุณภาพอากาศเพื่อควบคุมระดับมลพิษทางอากาศ เช่น ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO₂) และไนโตรเจนอ็อกไซด์ (NOₓ) ซึ่งเป็นผลผลิตจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง
- การจัดการขยะและเศษวัสดุ: มีการพัฒนายุทธศาสตร์ในการจัดการขยะและเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อป้องกันการเผาไหม้ที่ส่งผลต่อมลพิษทางอากาศ โดยการคัดแยกขยะและการรีไซเคิล
การส่งเสริมพลังงานทดแทน
- สนับสนุนการผลิตพลังงานชีวมวล: รัฐบาลส่งเสริมการใช้พลังงานชีวมวลจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ซึ่งช่วยลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลและลดมลพิษ
- การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต: มีการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยในการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพที่มีคุณภาพสูงและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม
การเฝ้าระวังและการบังคับใช้
- ระบบการรายงานคุณภาพอากาศ: มีการติดตามและรายงานคุณภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนรับรู้สถานการณ์มลพิษในพื้นที่ต่าง ๆ
- การบังคับใช้กฎหมาย: มีการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมมลพิษทางอากาศและน้ำ เพื่อให้ผู้ผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนด
การควบคุมการปล่อยมลพิษจากเชื้อเพลิงชีวภาพในประเทศไทยจึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน.
การควบคุมการปล่อยมลภาวะก็เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเช่นกัน การมีสารประกอบของกำมะถัน (Sulfur) หรือ ไนโตรเจน (Nitrogen) อยู่ในนำ้มันเชื้อเพลิง ทำให้หลังเกิดการเผาไหม้ในเครื่องยนต์ นำไปสู่การปล่อยก๊าซที่เป็นมลภาวะ เช่น ซัลเฟอร์ไดอ็อกไซด์ หรือ ไนโตรเจนอ็อกไซด์ เป็นต้น
เมื่อเชื้อเพลิงไม่ได้มาจาก Petroleum Fossil สารประกอบภายในย่อมมีความแตกต่างกัน
ทำไมต้องหาการปนเปื้อนของ Sulfur และ Nitrogen ในเชื้อเพลิงชีวภาพ
ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งในในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ที่กำลังมีการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมในอัตราที่สูง ทำให้ชุนชนเมือง อุตสาหกรรม และการคมนาคมขนส่งมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว เป็นผลให้มีการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้แก่ ถ่านหิน น้ำมันดิบ และก๊าซธรรมชาติ
เมื่อมีการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงฟอสซิลจะมีก๊าซเกิดขึ้น ได้แก่ ก๊าซออกไซด์ของซัลเฟอร์ และก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจน เมื่อลอยเข้าสู่บรรยากาศ จะกลายสภาพเป็นสารกรดสะสมของสารมลพิษ ที่ก่อให้เกิด หรืออาจก่อให้เกิดผลกระทบของสารมลพิษทางอากาศ เป็นภาวะที่เป็นพิษภัยอันตรายต่อสุขภาพกลายเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อม จนต้องแสวงหาแนวทางเพื่อลดการปล่อยมลพิษและบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้น
ดังนั้น จึงต้องมีการควบคุมปริมาณกำมะถันหรือซัลเฟอร์ และไนโตรเจนที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด ElemeNtS Horizontal จึงเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ช่วยให้ทดสอบหาปริมาณกำมะถันหรือซัลเฟอร์ และไนโตรเจนได้
อย่างไรก็ตาม เราสามารถหาการปนเปื้อนของ Sulfur และ Nitrogen ได้ในรูปแบบของ Total Sulfur และ Total Nitrogen ทั้งในเชื้อเพลิง Petroleum และ Biofuels ด้วย เครื่อง ElemeNtS จากแบรนด์ PAC
เครื่องวิเคราะห์ Antek ElemeNtS ของ PAC ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมโดยการวัดปริมาณซัลเฟอร์และไนโตรเจนทั้งหมดในระดับต่ำมากในของเหลว ก๊าซ และตัวอย่าง LPG การออกแบบแบบแยกส่วนช่วยให้สามารถวิเคราะห์ซัลเฟอร์และไนโตรเจนพร้อมกันในหนึ่งรอบการทำงาน และสามารถตรวจจับได้ต่ำสุดถึง 20 ppbw พร้อมกับความเสถียรระยะยาวที่ลดความต้องการในการสอบเทียบ ด้วยคุณสมบัติการเผาไหม้ที่ยอดเยี่ยม เครื่องวิเคราะห์นี้สามารถเผาไหม้วัตถุดิบต่างๆ ที่ใช้ในการผลิตเชื้อเพลิงทดแทนได้อย่างง่ายดาย
ElemeNtS เป็นเครื่องทดสอบหาค่ากำมะถันหรือซัลเฟอร์ และไนโตรเจน (Total Sulfur & Total Nitrogen Analyzer) โดยการป้อนตัวอย่าง ทั้งแบบ Injection ของเหลว การฉีดแก๊ส ด้วย Accura และการทดสอบของแข็งหรือของเหลวหนืดด้วย Boat Inlet
การเชื่อมต่อเข้ากับ Accura ซึ่งทำหน้าที่ในการควบคุมสภาวะในการป้อนตัวอย่างประเภทแก๊ส และแก๊สปิโตรเลียมเหลว (LPG) ก่อนทำการเผาไหม้อย่างสมบูรณ์ในเตาเผา และวิเคราะห์หาค่าไนโตรเจนด้วยหลักการ Chemiluminescence (CLD) หรือวิเคราะห์หาค่าซัลเฟอร์ด้วยหลักการ Ultra Violet Fluorescence (UVF)
คุณสมบัติของเครื่อง ElemeNtS
ที่มา:
https://www.pcd.go.th/laws/27642/
สามารถติดต่อ บริษัท Chemical House & Lab Instrument หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
โทร: 02-1844000
อีเมล: ptsales@chemihouse.com
หรือ Line OA หรือ Add line จาก QR Code ด้านล่าง
